ต้นตาล พรรณไม้ในพุทธประวัติ

ต้นตาล พรรณไม้ในพุทธประวัติ

ต้นตาล หรือที่ชาวฮินดูเรียกว่า ตาละ ตามพุทธประวัติกล่าวว่า ในพรรษาที่สองหลังจากที่พระองค์สำเร็จสัมมาสัมโพธิญาณ ได้เสด็จไปประทับ ณ ลัฏฐิวันสถาน (ป่าตาล) เพื่อโปรดพระเจ้าพิมพิสารราชา แห่งแคว้นมคธรวมทั้งบริวาร พระเจ้าพิมพิสารได้ทูลเชิญเสด็จให้เข้าประทับในเมืองพร้อมกับถวายพระกระยาหาร เสร็จแล้วได้ถวาย พระราชอุทยานเวฬุวัน (ป่าไผ่) ให้เป็นสังฆาราม แด่พระพุทธเจ้าและพระสงฆ์สาวก ด้วยเป็นสถานที่กว้างใหญ่ มีเสนาสนะเรียบร้อย ตั้งอยู่ไม่ใกล้ไกลจากชุมนุมชน เงียบสงัด ผู้มีกิจจะพึงไปถึงได้ไม่ลำบาก ร่มเย็นดีกว่าป่าตาล สมเป็นพุทธาธิวาส พระราชอุทยานเวฬุวันเป็นพระอารามแห่งแรกในพระพุทธศาสนา เรียกว่า เวฬุวนาราม


ชื่อพื้นเมือง: ต๋าล (เชียงใหม่), โหนด (ภาคใต้), ตาล ตาลี (อินเดีย), ตาลโหนด ตาลใหญ่ (ทั่วไป), ทองถู (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), ท้าง (กะเหรี่ยง-ตาก,เชียงใหม่)
ชื่อบาลี: ลฏฐิ (ลัด-ถิ), ตาโล (ตา-โล), ตาล (ตา-ละ), วิเภทิกา (วิ-เพ-ทิ-กา)
ชื่อวิทยาศาสตร์: Borussus flabellifer Linn.
ชื่อสามัญ: Lontar Palm, Brab Palm, Palmyra Palm, Fan Palm
ชื่อวงศ์: PALMAE
ถิ่นกำเนิด: ต้นตาล เป็นพืชที่มีแหล่งกำเนิดอยู่ในทวีปแอฟริกา และขยายแพร่พันธุ์จนมีทั่วไปในทวีปเอเชียเขตร้อนรวมทั้งประเทศไทย
สภาพนิเวศน์: ชอบขึ้นในที่มีน้ำท่วมถึงบ้างเป็นครั้งคราว
ลักษณะทั่วไป: ต้นตาลเป็นพันธุ์ไม้พวกปาล์มที่มีลำต้นสูงใหญ่ มีลำต้นแข็งแรงมาก ต้นสูงได้ถึง 40 เมตร และเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 50-60 เซนติเมตร ลำต้นเป็นเสี้ยนสีดำแข็งมาก แต่ไส้กลางลำต้นอ่อนนิ่ม บริเวณโคนต้นมีรากเป็นกลุ่มใหญ่ ใบเป็นใบเดี่ยวขนาดใหญ่ รูปร่างเหมือนพัด กว้างประมาณ 1-1.5 เมตร ขอบใบหยัก ก้านใบใหญ่ยาว ยาวประมาณ 1-2 เมตร แข็งแรง ขอบของก้านใบทั้งสองข้างมีหนามเหมือนฟันเลื่อยสีดำแข็ง และคมมาก โคนก้านแยกออกจากกันโอบหุ้มลำต้นไว้ ดอกออกเป็นช่อ แยกเพศกันอยู่คนละต้น ช่อดอกเพศผู้มีขนาดใหญ่และยาว รวมกันเป็นกลุ่มคล้ายนิ้วมือเรียกว่า นิ้วตาล แต่ละนิ้วยาวประมาณ 30-45 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร โคนกลุ่มช่อมีก้านช่อรวมและมีกาบแข็งๆ หลายกาบหุ้มโคนก้านช่ออีกทีหนึ่ง ช่อดอกเพศเมียมีลักษณะคล้ายกัน แต่นิ้วจะเป็นปุ่มๆ คือดอกที่ติดนิ้วตาล แต่ละดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ซม. มีกลีบเลี้ยงเป็นกาบแข็งๆ หุ้มแต่ละดอก กาบนี้จะเติบโตไปเป็นหัวจุกลูกตาล ผลกลมหรือรูปทรงกระบอกสั้นๆ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 15 ซม. เมื่อยังไม่สุกมีสีเขียวถึงน้ำตาล เมื่อแก่จัดมีสีน้ำตาลดำคล้ำ ผลเป็นเส้นใยแข็งเป็นมัน หุ้มห่อเนื้อเยื่อสีเหลืองไว้ภายใน ผลหนึ่งๆ มีเมล็ดใหญ่แข็ง 1-3 เมล็ด
การขยายพันธุ์: ขยายพันธุ์โดยใช้วิธีเพาะเมล็ด ต้องการปลูกที่ใดให้นำเมล็ดไปวางไว้ที่ต้องการปลูก เพราะถ้าย้ายไปปลูกมักจะไม่รอด เพราะรากแรกที่แทงลงดินของต้นตาลนั้นลึกมาก ถ้ารากนั้นขาดก็จะตายทันที
ประโยชน์: ทุกส่วนของต้นตาลสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ ใบอ่อนใช้ในการจักสานทำของใช้ หมวก ตะกร้า และของเล่นสำหรับเด็ก ใบแก่ใช้มุงหลังคากันแดดฝน ท้องใบสดของทางก้านใบนำมาขวั้นทำเชือก ทำน้ำตาลจากก้านช่อดอกตัวผู้และตัวเมีย ผลอ่อนใช้เป็นอาหาร เนื้อเยื่อสีเหลืองที่หุ้มเมล็ดของผลแก่ใช้ทำขนมตาล เมล็ดทิ้งไว้จนมีรากงอก ทิ้งไว้พอควรจะมีเนื้อเยื่อข้างใน นำมาเชื่อมทำขนมลูกตาลเชื่อม ลำต้นใช้ทำกระดาน ทำเสา ทำเครื่องใช้ และเครื่องตกแต่งบ้าน ใช้ทำเรือขุดที่เรียกว่า เรืออีโปง


พรรณไม้ในพุทธประวัติ

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลอ้างอิงและรูปภาพจากเว็บไซต์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง