บานบุรีเหลือง

บานบุรีเหลือง

บานบุรีเหลือง ไม้เลื้อยประดับ

ชื่อสามัญ : Allamanda, Golden trumpet

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Allamanda cathartica Linn.

วงศ์ : APOCYNACEAE

ชื่ออื่น : บานบุรี

ถิ่นกำเนิด : บานบุรีเหลืองมีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศบราซิลและอเมริกาเขตร้อน

ลักษณะทั่วไป :

ต้น บานบุรีจัดเป็นพรรณไม้พุ่มกึ่งเลื้อย หรือเป็นไม้เถาเลื้อยพาดไปตามรั้ว หลัก หรือต้นไม้อื่นเพื่อพยุงตัวขึ้นไป ลำต้นมีความสูงประมาณ 2-4.5 เมตร ลำต้นหรือเถามีลักษณะกลมเรียบไม่มีขน บริเวณยอดเถาเป็นสีเขียว เมื่อแก่จะเป็นสีน้ำตาล ทุกส่วนของต้นมียางสีขาวข้น

ใบ เป็นใบเดี่ยวแตกออกตรงข้ามกันบริเวณรอบๆ ข้อของลำต้น ข้อละประมาณ 3-6 ใบ ลักษณะใบบานบุรีเป็นรูปขอบขนานแกมรูปหอก ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 2-6 เซนติเมตรและยาวประมาณ 6-16 เซนติเมตร แผ่นใบด้านบนสีเขียวเข้ม ผิวใบเรียบเป็นมัน มองเห็นเส้นใบได้ชัดเจน ส่วนท้องใบมีสีอ่อนกว่า ก้านใบยาวประมาณ 2-9 เซนติเมตร

ดอก ดอกบานบุรีมีขนาดใหญ่ ลักษณะคล้ายรูปแตร ออกเป็นช่อกระจุกบริเวณยอด ตามซอกใบและที่ปลายกิ่ง ดอกมีกลีบเลี้ยงสีเขียวปลายแยกเป็นแฉก 5 แฉก ส่วนดอกสีเหลือง มีกลีบดอก 5 กลีบ กลีบดอกรูปขอบขนานหรือรูปหอก ปลายกลีบดอกมน โคนเชื่อมติดกันเป็นท่อสั้นหรือเป็นหลอดแคบ ดอกตูมกลีบดอกจะบิดไปในทางเดียวกัน ดอกมีเกสรเพศผู้ประมาณ 5 อัน ติดอยู่ด้านในใกล้กับโคนท่อดอก ส่วนเกสรเพศเมียนั้นมีช่องเดียว ภายในมีรังไข่อ่อนเป็นจำนวนมาก ก้านเกสรมีขนาดสั้นและมีขน ส่วนอับเรณูมีลักษณะเป็นรูปคล้ายหัวลูกศร ดอกเมื่อบานเต็มที่มีขนาดกว้างประมาณ 6-10 เซนติเมตร

ผลและเมล็ด ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลม เป็นหนาม เมื่อแก่จะแตกออก ภายในผลมีเมล็ดรูปไข่จำนวนมาก

การขยายพันธุ์ : บานบุรีขยายพันธุ์ด้วยวิธีการปักชำกิ่ง การตอนกิ่ง และการเพาะเมล็ด

ฤดูออกดอก : ออกดอกตลอดปี แต่จะดกมากในช่วงฤดูร้อน

การปลูก :

การปลูกบานบุรีโดยการปักชำกิ่ง มีขั้นตอนคือให้ตัดกิ่งบานบุรีบริเวณใต้ข้อประมาณ 2 เซนติเมตร และให้กิ่งปักชำมีความยาวประมาณ 1 ฟุต นำมาปักในกระบะทรายหรือถุงปักชำ รดน้ำพอชุ่ม วางไว้ในที่ร่มหรือวางไว้ภายในเรือนเพาะชำประมาณ 3 สัปดาห์ ก็จะมีรากงอกออกมา จึงนำไปปลูกในหลุมปลูกหรือปลูกลงกระถางตามต้องการ ดินที่ใช้ปลูกบานบุรีควรเป็นดินร่วนหรือดินร่วนปนทราย รดน้ำให้ชุ่ม ควรจัดวางกระถางต้นไม้ให้ได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอ จะทำให้บานบุรีออกดอกสวยงาม

การดูแลรักษา :

แสง บานบุรีเป็นไม้กลางแจ้ง ชอบแสงแดดแบบเต็มวัน จึงควรปลูกในที่สามารถได้รับแสงอย่างเต็มที่ เพราะหากไม่ได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอ ก็อาจจะไม่ออกดอกหรือให้ดอกที่ไม่สมบูรณ์และไม่สวย บานบุรีจะให้ดอกที่สวยงามเมื่ออยู่กลางแจ้ง

ดิน บานบุรีเป็นไม้ที่ค่อนข้างขึ้นง่าย ปลูกเลี้ยงได้ง่าย เติบโตเร็ว ไม่เลือกดินปลูก ทนความแล้งและดินเค็มได้ดี แต่ถ้าปลูกในดินร่วนหรือดินร่วนปนทรายก็จะเจริญงอกงามได้ดี

น้ำ บานบุรีมีความต้องการน้ำปานกลาง ควรรดน้ำในตอนเช้าวันละครั้ง และควรรดน้ำในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรให้ดินแฉะเพราะอาจทำให้รากเน่าและตายได้

โรคและแมลง โรคที่มักเกิดกับบานบุรีได้แก่ โรคโคนเน่า ส่วนแมลงที่พบได้แก่ เพลี้ยอ่อน และไร

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง