สิทธัตถะกุมารเจริญอานาปานสติกัมมัฏฐาน

สิทธัตถะกุมารเจริญอานาปานสติกัมมัฏฐาน

สิทธัตถะกุมารเจริญอานาปานสติกัมมัฏฐาน พรรณไม้ในพุทธประวัติ ต้นไม้ในพุทธประวัติ

เมื่อครั้งสิทธัตถะกุมารมีพระชนมายุ ๗ พรรษา พระองค์ได้โดยเสด็จพร้อมพระเจ้าสุทโทธนะพระราชบิดาในพระราชพิธีวัปปมงคล (แรกนาขวัญ) ตามพระราชประเพณี สิทธัตถะกุมารได้ประทับใต้ต้นชมพูพฤกษ์หรือต้นหว้า ครั้นถึงเวลาพระเจ้าสุทโธทนะทรงไถแรกนา บรรดาพระพี่เลี้ยงนางนมที่เฝ้าถวายบำรุงรักษาสิทธัตถะกุมารพากันออกมาดูพิธีนั้นเสียหมด คงปล่อยให้สิทธัตถะกุมารประทับ ณ ภายใต้ร่มไม้หว้าพระองค์เดียว

เมื่อสิทธัตถะกุมารเสด็จอยู่พระองค์เดียว ได้ความสงัดเป็นสุข ก็ทรงนั่งขัดสมาธิเจริญอานาปานสติกัมมัฏฐาน ยังปฐมฌานให้บังเกิด ในเวลานั้นเป็นเวลาบ่าย เงาแห่งต้นไม้ทั้งหลาย ย่อมชายไปตามแสงตะวันทั้งสิ้น แต่เงาไม้หว้านั้นดำรงทรงรูปปรากฏเป็นปริมณฑลตรงอยู่ดุจเวลาตะวันเที่ยง เป็นมหัศจรรย์ เมื่อนางนมพี่เลี้ยงทั้งหลายกลับมา เห็นปาฏิหาริย์ดังนั้นก็พลันพิศวง จึงรีบไปกราบทูลพระเจ้าสุทโธทนะ ครั้นได้ทอดพระเนตรเห็นปาฏิหาริย์เป็นมหัศจรรย์เช่นนั้น ก็ยกพระหัตถ์ถวายอภิวันทนาการ ออกพระโอฐดำรัสว่า เมื่อวันเชิญมาให้ถวายนมัสการพระกาฬเทวิลดาบส ก็ทรงทำปาฏิหาริย์ขึ้นไปยืนบนชฏาพระดาบส อาตมะก็ประณตครั้งหนึ่งแล้ว และครั้งนี้อาตมะก็ถวายอัญชลีเป็นวาระที่สอง ตรัสแล้วให้เชิญพระกุมารเสด็จคืนเข้าพระนคร ด้วยความเบิกบานพระทัย


พรรณไม้ในพุทธประวัติ

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลอ้างอิงและรูปภาพจากเว็บไซต์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง