ตะไคร้ (Lemongrass)

ตะไคร้ (Lemongrass)

ตะไคร้จัดเป็นพืชล้มลุกตระกูลหญ้า มีอายุหลายปี เป็นสมุนไพรและเครื่องเทศชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาปรุงอาหาร เช่น แกงเผ็ด พล่า ยำ ต้มยำ ต้มแซบ ใช้เป็นเครื่องเทศเพื่อเพิ่มความหอมและลดกลิ่นคาวในอาหารทะเล ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องปรุงพริกแกงต่างๆ ใช้ต้มกับน้ำเป็นน้ำตะไคร้เพื่อเป็นเครื่องดื่มสมุนไพร ในตะไคร้ประกอบด้วย วิตามินเอ ธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเส้นใยอาหาร ตะไคร้มีสรรพคุณเป็นยาขับลม แก้ท้องอืดเฟ้อแน่นจุกเสียด ช่วยย่อยอาหาร ใช้เป็นยาขับปัสสาวะสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการขัดเบาหรือปัสสาวะไม่คล่อง ใช้เป็นยาทาแก้ปวด เช่น โรครูมาติสซั่ม อาการปวดตามบั้นเอว นอกจากนี้น้ำมันตะไคร้ยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อราและแบคทีเรียอีกด้วย

ตะไคร้ (Lemongrass) พืชเครื่องเทศ
ชื่อสามัญ : Lemongrass
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cymbopogon citratus Stapf
วงศ์ : POACEAE
ชื่ออื่น : จะไคร้ (ภาคเหนือ) ไคร (ภาคใต้) คาหอม (เงี้ยว-แม่ฮ่องสอน) ห่อวอตะไป่ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) หัวสิงโต (เขมร-ปราจีนบุรี) ตะไคร้แกง (ทั่วไป)
ถิ่นกำเนิด : ประเทศในแถบเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย ศรีลังกา อินโดนีเซีย พม่าและไทย
ลักษณะทั่วไป : ตะไคร้จัดเป็นพืชล้มลุกตระกูลหญ้า มีอายุหลายปี สูงประมาณ 75-120 เซนติเมตร แตกเป็นกอ ลำต้นเป็นเหง้าใต้ดินมีข้อและปล้องสั้นมาก กาบใบสีขาวนวลหรือขาวปนม่วง ยาวและหนาหุ้มข้อและปล้องไว้แน่น ใบเป็นเดี่ยวเรียงสลับ มีลักษณะเรียวยาว กว้างประมาณ 1-2 เซนติเมตร ยาวประมาณ 70-100 เซนติเมตร แผ่นใบมีขน ขอบใบสากและคม ออกดอกยาก
การขยายพันธุ์ : ตะไคร้ขยายพันธุ์โดยการปักชำต้นเหง้า
การปลูก : ควรปลูกในดินร่วนที่ระบายน้ำได้ดี มีความอุดมสมบูรณ์ รองก้นหลุมปลูกด้วยปุ๋ยคอก นำต้นเหง้าตะไคร้มาตัดใบออกให้เหลือเพียงโคนต้นประมาณ 10 เซนติเมตร แล้วปักลงในหลุมปลูกในลักษณะเอียงเฉียง 45 องศา ปักลึก ประมาณ 5 เซนติเมตร ระยะแรกของการปลูกให้น้ำ 2-3 วันต่อครั้ง เมื่อตะไคร้ตั้งตัวได้ดีจึงรดน้ำ 5-7 วันต่อครั้ง ใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 หรือ 16-16-16 หลังจากปลูกตะไคร้ลงดินแล้ว 1 เดือน หลังจากนั้นให้ทุกๆ 3 เดือน
สรรพคุณ : ในตะไคร้ประกอบด้วย วิตามินเอ ธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเส้นใยอาหาร โคนกาบใบและลำต้นทั้งสดและแห้งมีน้ำมันหอมระเหย ตำรายาไทยใช้เป็นยาขับลม แก้ท้องอืดเฟ้อแน่นจุกเสียด ช่วยย่อยอาหาร ใช้ลำต้นแก่สดประมาณ 1 กำมือ (40-60 กรัม) ทุบพอแหลก ต้มน้ำพอเดือดหรือชงน้ำ ดื่มวันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร นอกจากนี้ใช้เป็นยาขับปัสสาวะสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการขัดเบาหรือปัสสาวะไม่คล่อง โดยผู้ป่วยต้องไม่มีอาการบวมที่แขนและขา พบว่าน้ำมันใช้เป็นยาทาแก้ปวด เช่น โรครูมาติสซั่ม อาการปวดตามบั้นเอว นอกจากนี้น้ำมันตะไคร้ยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อราและแบคทีเรียอีกด้วย

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง