ต้นเสลาเป็นพันธุ์ไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดนครสวรรค์ เป็นต้นไม้ที่มีดอกสีม่วงอมชมพูสวยงาม นิยมปลูกไว้เพื่อประดับตกแต่งสวน ให้ร่มเงาและความร่มรื่นกับบริเวณโดยรอบ ต้นเสลามีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพรรักษาโรคได้ เช่น เปลือกมีสรรพคุณแก้อาการท้องเสีย โดยนำเปลือกไปตากแห้งนำมาต้มดื่ม หรือบดเป็นผงละเอียดโรยตรงแผลช่วยบรรเทาอาการแผลอักเสบ

ชื่อสามัญ : Thai bungor

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Lagerstroemia loudonii Binn.

วงศ์ : LYTHRACEAE

ชื่ออื่น : เกรียบ ตะเกรียบ (ชอง-จันทบุรี), ตะแบกขน (นครราชสีมา), เสลาใบใหญ่ (ทั่วไป), อินทรชิต

การแพร่กระจาย : ต้นเสลามีถิ่นกำเนิดและแพร่กระจายพันธุ์อยู่ในประเทศแถบเอเชียเขตร้อน ภูมิภาคอินโดจีน พม่าและไทย พบขึ้นตามป่าเบญจพรรณ ป่าดงดิบและป่าชายหาด

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :

ต้นเสลาเป็นพรรณไม้ผลัดใบขนาดกลาง ต้นสูงได้ถึง 20 เมตร เรือนยอดกลมหรือทรงกระบอก พุ่มแน่นหนาทึบ เปลือกต้นสีเทาเข้มเกือบดำ เป็นรอยร่องแตกเล็กๆ เป็นเส้นยาวไปตามยาวของลำต้น เปลือกชั้นในเป็นชั้นสีน้ำตาลและขาวบางๆ หลายชั้น ใบเป็นใบเดี่ยวรูปไข่แกมขอบขนาน ปลายใบเรียวแหลมเป็นติ่ง โคนใบมน ขอบใบเป็นคลื่นเล็กน้อย ใบหนาและมีขนนุ่มสีเหลืองทองปกคลุมทั้งสองด้าน ขนาดใบกว้าง 6-10 เซนติเมตร และยาว 16-24 เซนติเมตร เส้นใบ 9-10 คู่ เส้นใบย่อยสานเป็นขั้นบันได เห็นชัดเจนจากด้านล่าง ก้านใบยาว 0.6-1 เซนติเมตร ดอกออกตามปลายกิ่ง เป็นช่อรูปทรงกระบอก ช่อดอกยาวประมาณ 10-30 เซนติเมตร ดอกสีม่วง ม่วงอมชมพู หรือม่วงกับขาว กลีบเลี้ยงเชื่อมกันเป็นรูปถ้วย ปลายแยกเป็น 5-8 แฉก กลีบดอกมี 6 กลีบ รูปกลมบางยับย่น ขอบย้วย โคนคอดเป็นก้านสั้นๆ เมื่อบาน เส้นผ่านศูนย์กลางดอกประมาณ 4-6 เซนติเมตร เกสรตัวผู้ขนาดใหญ่ 6-7 อัน สีชมพู มีอับเรณูสีเหลืองขนาดเล็กมากมาย เกสรตัวเมีย 1 อัน รังไข่มีขนสั้นนุ่ม ผลกลมรีรูปไข่สีน้ำตาล ขนาดกว้าง 1-1.5 เซนติเมตร ยาว 1.5-2 เซนติเมตร ผิวนอกมีความแข็ง ผลมีสีเขียวอ่อนเมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล เมื่อผลแก่จะแตกออกตามยาว 5-6 พู ในผลมีเมล็ดเป็นจำนวนมาก เมล็ดแบนมีสีน้ำตาลอมเหลือง

ฤดูออกดอก : ต้นเสลาออกดอกในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน ติดผลในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนกรกฎาคม

การขยายพันธุ์ : ขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่งหรือการปักชำกิ่ง

การปลูก : ต้นเสลาเป็นพรรณไม้กลางแจ้ง ต้องการความชื้นและน้ำในปริมาณปานกลาง เจริญเติบโตได้ดีในดินอุดมร่วนซุย

การใช้ประโยชน์ :

ต้นเสลามีดอกสีม่วงอมชมพูสวยงาม นิยมปลูกไว้เพื่อประดับตกแต่งสวน ปลูกเพื่อให้ร่มเงาและความร่มรื่นกับบริเวณโดยรอบ ต้นเสลามีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพรรักษาโรคได้ เช่น เปลือกมีสรรพคุณแก้อาการท้องเสีย โดยนำเปลือกไปตากแห้งนำมาต้มดื่ม หรือบดเป็นผงละเอียดโรยตรงแผลช่วยบรรเทาอาการแผลอักเสบ เนื้อไม้ของต้นเสลามีความแข็งแรงในระดับหนึ่ง นิยมนำมาทำเป็นไม้แกะสลักให้ดูสวยงาม